การบันทึกครั้งที่ 1
วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2559
<<<<<เนื้อหาที่เรียน ความรู้ที่ได้รับ
- เมื่อเข้ามาในห้องเรียน วันนี้เป็นวันแรกของการเรียน อาจารย์ปฐมนิเทศและบอกข้อตกลงในห้องเรียน
- แจกชีทเนื้อเพลง
- แจกใบปั้๊ม การมาเรียน
- อาจารย์สอนร้องเพลงแต่ละเพลง แล้วร้องตาม ช่วยกันร้องเพลง ไปดูกันว่าแต่ละเพลงเป็นอย่างไร ว่าแล้วก็ไปฝึกร้องกันดีกว่าโน๊ะ
- ก่อนที่จะเริ่มเรียนทฤษฎีต่างๆ อาจารย์ให้นักศึกษาลองวาดรูปผ่านเส้นให้ครบทุกจุดโดยไม่ให้ยกปากกาขึ้น โดยมี จุดอยู่ 9 จุด มาดูกันเล้ยยยยยย
<<<<Wowwwww เพื่อนทำได้ ปรบมือค่าาาา >>>
แต่เรายังทำไม่ได้เลยอะ ^^
- การจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย
- จิตวิทยาและนักการศึกษาได้ให้ความหมายเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ไว้ดังนี้
1. ความคล่องแคล่วในการคิด คือ ความสามารถของบุคคลในการหาคำตอบได้อย่างคล่องแคล่ว รวดเร็ว และมีคำตอบในปริมาณที่มากในเวลาจำกัด
2. ความคิดยืดหยุ่นในการคิด คือ ความสามารถของบุคคลในการคิดหาคำตอบได้หลายประเภทและหลายทิศทาง
3. ความคิดริเริ่ม คือ ความสามารถของบุคคลในการคิดหาสิ่งแปลกใหม่และเป็นคำตอบที่ไม่ซ้ำกับผู้อื่น
4. ความคิดละเอียดลออ คือ ความสามารถในการกำหนดรายละเอียดของความคิดเพื่อบ่งบอกถึงวิธีสร้างและการนำไปใช้
หลักความคิดสร้างสรรค์ของกิลฟอร์ด มุ่งไปที่ความสามารถของบุคคลที่จะคิดได้ รวดเร็วกว้างขวาง และมีความคิดริเริ่ม ถ้ามีส่งเร้ามากระตุ้นให้เกิดความคิดนั้นๆ สิ่งเร้าที่จะมากระตุ้นให้เกิดความคิด มีอยู่ 4 ชนิด
1. รูปภาพ
2. สัญลักษณ์
3. ภาษา
4. พฤติกรรม
กิลฟอร์ด กล่าวโดยสรุปว่า ความคิดสร้างสรรค์เป็นความสามารถด้านสมองที่จะคิดได้หลายแนวทางหรือคิดได้หลายคำตอบ เรียกว่า การคิดแบบอเนกนัย
Torrance กล่าวว่า ความคิดสร้างสรรค์เป็นความสามารถของบุคคลในการคิดสร้างสรรค์ผลิตผล หรือสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ ที่ไม่รู้จักมาก่อน ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้อาจจะเกิดจากการรวมความรู้ต่างๆ ที่ได้รับจากประสบการณ์แล้วเชื่อมโยงกับสถานการณ์ใหม่ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นแต่ไม่จำเป็นสิ่งสมบูรณ์อย่างแท้จริง ซึ่งอาจออกมาในรูปของผลผลิตทางศิลปะ วรรณคดี วิทยาศาสตร์
สรุปได้ว่า ความคิดสร้างสรรค์ คือ ความสามารถทางสมองของบุคคลที่จะคิดได้หลายทิศหลายทาง หรือคิดได้หลายคำตอบ และความสามารถในการมองเห็นความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆโดยมีสิ่งเร้าเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดความคิดใหม่ต่อเนื่องกันไป และความคิดสร้างสรรค์นี้อาจเป็นความคิดใหม่ผสมผสานกัประสบการณ์ก็ได้
1. รูปภาพ
2. สัญลักษณ์
3. ภาษา
4. พฤติกรรม
กิลฟอร์ด กล่าวโดยสรุปว่า ความคิดสร้างสรรค์เป็นความสามารถด้านสมองที่จะคิดได้หลายแนวทางหรือคิดได้หลายคำตอบ เรียกว่า การคิดแบบอเนกนัย
Torrance กล่าวว่า ความคิดสร้างสรรค์เป็นความสามารถของบุคคลในการคิดสร้างสรรค์ผลิตผล หรือสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ ที่ไม่รู้จักมาก่อน ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้อาจจะเกิดจากการรวมความรู้ต่างๆ ที่ได้รับจากประสบการณ์แล้วเชื่อมโยงกับสถานการณ์ใหม่ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นแต่ไม่จำเป็นสิ่งสมบูรณ์อย่างแท้จริง ซึ่งอาจออกมาในรูปของผลผลิตทางศิลปะ วรรณคดี วิทยาศาสตร์
สรุปได้ว่า ความคิดสร้างสรรค์ คือ ความสามารถทางสมองของบุคคลที่จะคิดได้หลายทิศหลายทาง หรือคิดได้หลายคำตอบ และความสามารถในการมองเห็นความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆโดยมีสิ่งเร้าเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดความคิดใหม่ต่อเนื่องกันไป และความคิดสร้างสรรค์นี้อาจเป็นความคิดใหม่ผสมผสานกัประสบการณ์ก็ได้
- องค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์นี้ได้รับอิทธิพลมาจากทฤษฎีโครงสร้างทางสติปัญญาของกิลฟอร์ด ซึ่งเชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์เป็นความสามารถทางสมองที่คิดได้อย่างซับซ้อน กว้างไกล หลายทิศทาง หรือที่เรียกว่า คิดอเนกนัย ซึ่งประกอบด้วย ความคิดริเริ่ม (Originality) ความคิดคล่องแคล่ว (Fluency) ความคิดยืดหยุ่น (Flexibility) ความคิดละเอียดลออ(Elaboration)
1. ความคิดริเริ่ม (Originality) หมายถึง ความคิดแปลกใหม่ไม่ซ้ำกันกับความคิดของคนอื่น และแตกต่างจากความคิดธรรมดา ความคิดริเริ่มอาจเกิดจากการคิดจากเดิมที่มีอยู่แล้วให้แปลกแตกต่างจากที่เคยเห็น หรือสามารถพลิกแพลงให้กลายเป็นสิ่งที่ไม่เคยคาดคิด ความคิดริเริ่มอาจเป็นการนำเอาความคิดเก่ามาปรุงแต่งผสมผสานจนเกิดเป็นของใหม่ ความคิดริเริ่มมีหลายระดับซึ่งอาจเป็นความคิดครั้งแรกที่เกิดขึ้นโดยไม่มีใครสอนแม้ความคิดนั้นจะมีผู้อื่นคิดไว้ก่อนแล้วก็ตาม
2. ความคิดคล่องแคล่ว (Fluency) หมายถึง ปริมาณความคิดที่ไม่ซ้ำกันในเรื่องเดียวกัน โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
2.1 ความคล่องแคล่วทางด้านถ้อยคำ (Word Fluency) เป็นความสามารถในการใช้ถ้อยคำอย่างคล่องแคล่ว
2.2 ความคิดคล่องแคล่วทางด้านการโยงสัมพันธ์ (Associational Fluency) เป็นความสามารถที่จะคิดหาถ้อยคำที่เหมือนกันได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ภายในเวลาที่กำหนด
2.3 ความคล่องแคล่วทางด้านการแสดงออก (Expression Fluency) เป็นความสามารถในการใช้วลีหรือประโยค กล่าวคือ สามารถที่จะนำคำมาเรียงกันอย่างรวดเร็วเพื่อให้ได้ประโยคที่ต้องการ
2.4 ความคล่องแคล่วในการคิด (Ideational Fluency) เป็นความสามารถที่จะคิดค้นสิ่งที่ต้องการภายในเวลาที่กำหนด เช่น ใช้คิดหาประโยชน์ของก้อนอิฐให้ได้มากที่สุดภายในเวลาที่กำหนดซึ่งอาจเป็น 5 นาที หรือ 10 นที
3. ความคิดยืดหยุ่น (Flexibility) หมายถึง ประเภทหรือแบบของการคิดแบ่งออกเป็น
3.1 ความคิดยืดหยุ่นที่เกิดขึ้นทันที (Spontaneous Flexibility) เป็นความสามารถที่จะพยายามคิดได้หลายทางอย่างอิสระ ตัวอย่างของคนที่มีความคิดยืดหยุ่นในด้านนี้จะคิดได้ว่าประโยชน์ของหนังสือพิมพ์มีอะไรบ้าง ความคิดของผู้ที่ยืดหยุ่นสามารถจัดกลุ่มได้หลายทิศทางหรือหลายด้าน เช่น เพื่อรู้ข่าวสาร เพื่อโฆษณาสินค้า เพื่อธุรกิจ ฯลฯ ในขณะที่คนที่ไม่มีความคิดสร้างสรรค์จะคิดได้เพียงทิศทางเดียว คือ เพื่อรู้ข่าวสาร เท่านั้น
3.2 ความคิดยืดหยุ่นทางด้านการดัดแปลง (Adaptive Flexibility) หมายถึง ความสามารถในการดัดแปลงความรู้ หรือประสบการณให้เกิดประโยชน์หลายๆ ด้าน ซึ่งมีประโยชน์ต่อการแก้ปัญหา ผู้ที่มีความยืดหยุ่นจะคิดดัดแปลงได้ไม่ซ้ำกัน
4. ความคิดละเอียดละออ (Elaboration) หมายถึง ความคิดในรายละเอียดเป็นขั้นตอน สามารถอธิบายให้เห็นภาพชัดเจน หรือเป็นแผนงานที่สมบูรณ์ขึ้น ความคิดละเอียดละออจัดเป็นรายละเอียดที่นำมาตกแต่ง ขยายความคิดครั้งแรกให้สมบูรณ์ขึ้น
- พัฒนาการทางความคิดสร้างสรรค์
Torrance ได้แบ่งออกเป็น 3 ระยะ
- ระยะแรกเกิด – 2 ขวบ
- ระยะ 2 -4 ขวบ
- ระยะ 4-6 ขวบ
- แรกเกิด-2ปี มีจินตนาการ สำรวจสิ่งแวดล้อมรอบตัว
- 2-4 ปี ตื่นตัวกับสิ่งใหม่ ใช้จินตนาการกับการเล่น ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ช่วงความสนใจสั้น
- 4-6 ปี สนุกกับการวางแผน การเล่น การทำงาน ชอบเล่นสมมติเชื่อมโยงสิ่งต่างๆได้ แต่จะเข้าใจเหตุและผลได้ไม่ดีนัก
- ลำดับขั้นของพัฒนาการทางความคิดสร้างสรรค์
Torrance ได้แบ่งเป็น 5 ขั้น
ขั้นที่ 1 แสดงออกอย่างอิสระทางความคิด ไม่คำนึงถึงคุณภาพ
ขั้นที่ 2 งานที่ผลิตต้องอาศัยทักษะบางอย่าง
ขั้นที่ 3 ประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆโดยไม่ซ้ำใคร
ขั้นที่ 4 ปรับปรุงขั้นที่ 3
ขั้นที่ 5 คิดสิ่งที่เป็นนามธรรมขั้นสูงสุด คิดหลักการใหม่ๆ
- ประโยชน์ของความคิดสร้างสรรค์
- ก่อให้เกิดสิ่งแปลกใหม่
- อำนวยประโยชน์สุขให้แก่บุคคล
- ช่วยให้เข้าใจปัญหาและแก้ปัญหาได้ดี
- ช่วยให้บุคคลประสบความสำเร็จ
- ช่วยให้ปรับตัวได้ดี
- แนวคิดและทฤษฎีโครงสร้างทางปัญญาของ Guilford
• อธิบายความสามารถของสมองมนุษย์เป็นแบบจำลอง 3 มิติ
มิติที่ 1 เนื้อหา
(ข้อมูลหรือสิ่งเร้าที่เป็นสื่อในการคิด)
• ภาพ
• สัญลักษณ์
• ภาษา
• พฤติกรรม
มิติที่ 2 วิธีคิด
(กระบวนการทำงานของสมอง)
• การรู้และเข้าใจ
• การจำ
• การคิดแบบอเนกนัย
• การคิดแบบเอกนัย
• การประเมินค่า
มิติที่ 3 ผลของการคิด
(การตอบสนองต่อข้อมูลหรือสิ่งเร้า)
• หน่วย
• จำพวก
• ความสัมพันธ์
• ระบบ
• การแปลงรูป
• การประยุกต์
- ทฤษฎี Constructivism
- เด็กเรียนรู้เอง
- เด็กคิดเอง
- ครูกับเด็กเรียนรู้ไปด้วยกัน
- สร้างองค์ความรู้ใหม่ด้วยตนเอง
- ทฤษฎีของ Torrance
ความคิดสร้างสรรค์เป็นกระบวนการของความรู้สึกต่อปัญหา แล้วรวบรวมความคิดตั้งเป็นสมมติฐาน และเผยแพร่ผลที่ได้จากการทดสอบ
• ขั้นที่ 1 การพบความจริง
• ขั้นที่ 2 การค้นพบปัญหา
• ขั้นที่ 3 การตั้งสมมติฐาน
• ขั้นที่ 4 การค้นพบคำตอบ
• ขั้นที่ 5 ยอมรับผล
- บรรยากาศที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
• เด็กรู้สึกปลอดภัย
• ให้เด็กได้ลองเล่นคนเดียว
• ได้สำรวจ ค้นคว้า และสร้างสรรค์ด้วยตนเอง
• ขจัดอุปสรรค
• ไม่มีการแข่งขัน
• ให้ความสนใจเด็ก
- ลักษณะของเด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์
- มีไหวพริบ
- กล้าแสดงออก
- อยากรู้อยากเห็น
- ช่างสังเกต
- มีอารมณ์ขัน
- มีสมาธิ
- รักอิสระ
- มั่นใจในตนเอง
- อารมณ์อ่อนไหวง่าย
- ไม่ชอบการบังคับ
- ชอบเหม่อลอย
- ซาบซึ้งกับสุนทรียภาพ
- มีความวิจิตรพิสดาร
- ชอบสร้างแล้วรื้อ รื้อแล้วสร้างใหม่
- ใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา
- กิจกรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
• Torrance ได้กล่าวถึงลักษณะของกิจกรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ไว้ 3 ลักษณะ
• ลักษณะที่ 1 ความไม่สมบูรณ์ การเปิดกว้าง (Incompleteness, Openness)
• ลักษณะที่ 2 การสร้างบางอย่างขึ้นมา และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ (Producing Something and Using It)
• ลักษณะที่ 3 การใช้คำถามของเด็ก (Using Pupil Question)
- แนวทางการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของ Torrance
- ส่งเสริมให้เด็กถาม
- เอาใจใส่ความคิดของเด็ก
- ยอมรับคำถามของเด็ก
- ชี้แนะให้เด็กหาคำตอบด้วยตนเอง
- แสดงให้เด็กเห็นว่าความคิดของเด็กมีคุณค่า
- เปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้อยู่เสมอ
- ค่อยเป็นค่อยไป
- ยกย่องชมเชย
- ไม่มีการวัดผล
- หลังจากที่เรียนทฤษฎีเสร็จแล้ว อาจารย์ให้นักศึกษาพับจรวดจากกระดาษ คนละ 1 อัน โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์
- จากนั้นอาจารย์ก็ให้เอาจรวดออกมาขว้างไปยังจุดหมายที่วางไว้ นั่นก็คือกล่องใส่สี
- กิจกรรมสุดท้ายของวันนี้คือ อาจารย์ให้จับคู่เพื่อน 1 คน แล้วให้ออกไปเอากระดาษและสีเทียนมาคนละ 1 สี จากนั้นอาจารย์ก็เปิดเพลงแล้วให้ฟังพร้อมทั้งหยิบสีเทียนขึ้นมาแล้วก็วาดยังไงก็ได้ห้ามยกมือ โดยวาดไปตามเสียงเพลงและจินตนาการของแต่ละคน
- จากนั้นอาจารย์ก็ให้ดูว่ามีรูปอะไรบ้าง แล้วก็ให้วาดเส้นทับให้เข้มๆ
- ดูสิค้าาาา กลุ่มของพวกเรา งามขนาดไหน ดูด้วยค่ะ ทีมเวิร์คค้ะกับ แพรว แพรว แพรว
มองไม่ค่อยเห็นนะคะ ถ้า focus ที่รูป คนจะดำค่ะ ^^
- มาดูการพรีเซ้นของเพื่อนๆกันนะคะ
- Wowwww สวยทุกกลุ่มเลยค้าาาา ไปดูผลงานเพื่อนๆกันดีกว่าโน๊ะ
ประเมินตนเอง : ตั้งใจเรียนในขณะที่อาจารย์สอนและสนุกกับกิจกรรมที่อาจารย์เตรียมมาสอน
ประเมินเพื่อน :เพื่อนๆทุกคนน่ารักค่ะ เพื่อน ๆ ตั้งใจเรียนและไม่คุยกันในเวลาเรียนและสนุกกับกิจกรรมที่อาจารย์เตรียมมาสอน
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์น่ารักค่ะ เตรียมการสอนมาดีมาก การเรียนเป็นไปอย่างเป็นลำดับขั้นตอน มีเทคนิคการสอนที่น่าสนใจ สามารถอธิบายและยกตัวอย่างให้นักศึกษาได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น